English | ภาษาไทย

Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว

มีผลใช้บังคับและแก้ไขล่าสุด: วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

พวกเรา บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “คาเนโบ ประเทศไทย” หรือ “เรา”) จะทำหน้าที่เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม หรือได้รับมาจากผู้บริโภค คู่ค้าของบริษัท และบุคคล
ที่ติดต่อกับเรา (ซึ่งต่อไปจะเรียกรวมกันว่า “ลูกค้า” หรือ “ท่าน”) เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งรวมไปถึง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการขาย เพื่อพัฒนาสินค้า และบริการให้เป็นที่พึงพอใจแก่ลูกค้า

ต่อไปนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ให้มีความหมายเดียวกับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ดังที่ปรากฏในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) คำว่า “เก็บรวบรวม” “ใช้” และ “ประมวลผล” จะมีความหมายเดียวกับ คำว่า “การเก็บรวบรวม” “การใช้" และ "การประมวลผล" ที่กำหนดไว้ใน “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งหมายความว่า รวบรวม บันทึก ยึดถือ เปิดเผย ฯลฯ คาเนโบ ประเทศไทย ตระหนักดีว่าการจัดการและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญ และจำเป็นต่อการรักษาความไว้วางใจของ “ลูกค้า” ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาแก่เรา เพื่อตอบสนองความรับผิดชอบนี้ คาเนโบ ประเทศไทย จะปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อบังคับทั้งหมดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และจะทำงาน
เพื่อจัดการ และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมตามนโยบายนี้.

1. รูปแบบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า


เราจะเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา และส่งข้อมูลส่วนบุคคลรูปแบบต่าง ๆ ของท่าน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่เราอาจเก็บรวบรวมจากท่าน

  • ข้อมูลที่ระบุตัวตน หรือข้อมูลสำหรับการติดต่อเจ้าของข้อมูล รวมถึง ชื่อ ภาพถ่าย ที่อยู่สำหรับส่งจดหมายหรือสินค้า อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัตรประชาชน ชื่อผู้ใช้ หรือ ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน หรือสำหรับใช้ติดต่อกับท่าน ในลักษณะเดียวกันกับข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น
  • ข้อมูลทางการเงิน อาจรวมถึง ที่อยู่สำหรับส่งใบแจ้งหนี้ และข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ
  • ข้อมูลทางธุรกรรม รวมถึง รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินให้กับท่าน และจากท่าน และรายละเอียดอื่น ๆ
    ของผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อจากเรา หรือรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับธุรกรรมของท่านกับเรา
  • ข้อมูลทางเทคนิค รวมถึง ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (IP) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประเภทและ รูปแบบของเว็บเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเวลาในพื้นที่ของท่าน ตำแหน่ง ประเภท และรูปแบบของตัวเสริมของเว็บเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ
    และแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยี่อื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา โปรแกรม หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลโปรไฟล์ รวมถึง ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านของท่าน การซื้อ หรือคำสั่งซื้อของท่าน ความสนใจ ความชอบ ข้อเสนอแนะ อายุ เพศ คำวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ การตอบแบบสำรวจ ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ของท่านกับผลิตภัณฑ์ของเรา การตั้งค่าการติดต่อ และข้อมูลอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
  • ข้อมูลการใช้งาน รวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ท่านใช้เว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้เว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของเราจากท่าน
  • ข้อมูลการตลาด และการสื่อสาร รวมถึง ความพึงพอใจของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากเรา และความพึงพอใจในการสื่อสารของท่าน

2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล


คาเนโบ ประเทศไทย จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งต่อท่านในเวลาที่มีการรวบรวมข้อมูล
และเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้ (“ขอบเขตการใช้งาน”) และจะไม่ใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือได้รับอนุญาต หรือกระทำไปตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้

เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย คาเนโบ ประเทศไทย จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • (ก) เพื่อพัฒนา และส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้น
  • (ข) เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ และภาระผูกพันภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงกฎหมาย
    และระเบียบว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงิน
  • (ค) เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันในสัญญาได้
  • (ง) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของ คาเนโบ ประเทศไทย กับท่าน
  • (จ) เพื่อรักษา และปรับปรุงบันทึกมูลส่วนบุคคลของท่าน และ
  • (ฉ) เพื่อจุดประสงค์อื่นใดที่เกิดขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมจากวัตถุประสงค์ข้างต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกส่งไปยังสถานที่นอกประเทศไทย

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกรวบรวมจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึง ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากท่าน หรือบุคคลที่มีอำนาจกระทำการแทนท่าน ข้อมูลจากบุคคลที่สาม หรือข้อมูลที่ได้จากแหล่งที่มาสาธารณะ

การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่มีข้อบังคับตามกฎหมาย หรือตามสัญญาว่า ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
แก่เรา ดังนั้น การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา จึงเป็นไปด้วยความสมัครใจของท่านเอง อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ คาเนโบ ประเทศไทย ตามนโยบายนี้ คาเนโบ ประเทศไทย อาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับท่าน และนอกจากนี้ คาเนโบ ประเทศไทย อาจไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. การจัดการและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม


คาเนโบ ประเทศไทย มีมาตรการดังต่อไปนี้เพื่อจัดการ และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม

  • จัดตั้งองค์กรเพื่อส่งเสริม และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในความครอบครองของ คาเนโบ ประเทศไทย
    และแต่งตั้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในแต่ละบริษัทในกลุ่มบริษัท คาโอ เพื่อดูแลข้อมูลส่วนบุคคล
  • การกำหนดระเบียบภายในบริษัท ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และแนวทางที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ
    ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • ให้ความรู้แก่พนักงาน และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับ คาเนโบ ประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เกี่ยวข้องทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีความเข้าใจในกฎหมาย และแนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
  • บังคับใช้ข้อบังคับต่าง ๆ ที่เหมาะสม สำหรับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลภายใน คาเนโบ ประเทศไทย และ
  • ดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และสมเหตุสมผล เพื่อป้องกันการเข้าถึง การรั่วไหล
    การทำลาย หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ข้อกำหนด และการเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่สาม


คาเนโบ ประเทศไทย จะไม่ให้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลที่สาม เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้:

  • ได้รับความยินยอมจากท่าน ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็น หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งของศาล
  • ข้อมูลถูกจัดเตรียม หรือเปิดเผยแก่ผู้ให้บริการ (รวมถึงเจ้าหน้าที่ พนักงาน และตัวแทน) ตามขอบเขตอำนาจหน้าที่
    และความรับผิดชอบของบุคคลดังกล่าว (โปรดดูข้อที่ 5 ด้านล่าง)
  • ในกรณีที่มีการใช้งานร่วมกันระหว่างบริษัทในกลุ่มบริษัท คาโอ และ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเตรียมไว้ เพื่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากการควบรวมกิจการ การแยกกิจการ หรืออื่น ๆ นอกจากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

นอกจากนี้ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาเนโบ ประเทศไทย อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปที่

  • (ก) บริษัทย่อย บริษัทโฮลดิ้ง บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ คาเนโบ ประเทศไทย ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
  • (ข) หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศไทย หรือหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    ในต่างประเทศ
  • (ค) ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่อาจมีการร้องขอเป็นครั้งคราว และ/หรือ
  • (ง) บุคคลอื่นใดที่ คาเนโบ ประเทศไทย เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูล

แม้ว่าบุคคลดังกล่าวอาจอยู่นอกประเทศไทย เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือวัตถุประสงค์อื่นใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่เราได้แจ้งต่อท่านในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

5. การควบคุมผู้ให้บริการ


คาเนโบ ประเทศไทย อาจมอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ให้บริการภายนอกเป็นครั้งคราว เฉพาะผู้ให้บริการที่ได้รับการยืนยันว่ามีความสามารถในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเท่านั้นที่จะถูกเลือก นอกจากนี้ คาเนโบ ประเทศไทย จะให้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการดังกล่าว อย่างเคร่งครัดตามขอบเขตการใช้งานที่กำหนดให้ผู้ให้บริการ โดยจะมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือวิธีการที่คล้ายกัน เพื่อให้การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างถูกต้อง และสามารถตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาเป็นระยะ

6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล


ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้เป็นเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลของมูลส่วนบุคคลตามที่อธิบายไว้ข้างต้น เมื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเสร็จสมบูรณ์ หรือความสัมพันธ์ของท่านกับเราสิ้นสุดลง เราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบ และการบันทึกของเรา หรือดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลนิรนามอย่างเหมาะสม เพื่อที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่สามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้อีกต่อไป (เว้นแต่ เรามีความจำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลของท่าน เพื่อให้สอดคล้องกับภาระผูกพันทางกฎหมาย หรือข้อบังคับที่กลุ่มบริษัทของเราจำเป็นต้องปฏิบัติตาม)

เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ หรือเราต้องการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อก่อตั้ง ใช้ หรือปกป้องสิทธิของเราจากการเรียกร้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามเราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนพื้นฐานของข้อมูลที่เราจำเป็นต้องรู้เท่านั้น และจะกระทำภายในขอบเขตที่เป็นไปได้ เราจะจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น

7. สิทธิของท่าน


สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมของท่าน ในการรวบรวม การประมวลผล และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางเรื่อง (โดยเฉพาะเกี่ยวกับการรับการสื่อสารทางการตลาดแบบตรงผ่านอีเมล) ท่านสามารถ
เพิกถอนความยินยอมนี้ได้ทุกเมื่อ โดยการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะมีผลหลังจากที่เราได้รับการเพิกถอนความยินยอมจากท่าน อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อความถูกต้องตามกฎหมายของการประมวลผลของเรา ก่อนมีการเพิกถอนความยินยอมจากท่าน โปรดติดต่อเรา หากท่านต้องการจะเพิกถอนความยินยอมของท่าน

สิทธิในการร้องขอการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน: ท่านมีสิทธิได้รับคำยืนยันจากเราว่าข้อมูลส่วนบุคคล
ที่เกี่ยวข้องกับท่านกำลังถูกประมวลผลหรือไม่ และในกรณีดังกล่าว ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนี้ รวมถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุประสงค์ในการประมวลผล หมวดหมู่ของข้อมูลส่วนบุคคล
ที่เกี่ยวข้อง และผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล หรือประเภทของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับหรือจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิทธิเด็ดขาด และอาจมีการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากสิทธิของท่านอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ท่านมีสิทธิได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราใช้ประมวลผล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับสำเนาเพิ่มเติมที่ท่านร้องขอ เราอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมตามค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินการ
สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องจากเรา ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ท่านมีสิทธิที่จะกรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ รวมถึงการให้คำชี้แจงเพิ่มเติม

สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (สิทธิที่จะถูกลืม): ในบางกรณี ท่านมีสิทธิขอให้เราลบข้อมูลส่วนบุคคล
ที่เกี่ยวข้องกับท่าน และเราอาจดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

สิทธิในการขอจำกัดการประมวลผล: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิขอจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเรา ในกรณีดังกล่าว ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกทำเครื่องหมาย และเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างเท่านั้น

สิทธิในการขอย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งท่านได้ให้ไว้กับเรา ในรูปแบบที่ใช้กันทั่วไป และสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องอ่าน และท่านมีสิทธิที่จะส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังหน่วยงานอื่นโดยที่เราจะไม่โต้แย้งขัดขวาง

สิทธิในการคัดค้าน: ในบางสถานการณ์ ท่านมีสิทธิคัดค้านที่เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลเฉพาะของท่านได้ตลอดเวลา และเราอาจจำเป็นต้องยุติการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สิทธิในการคัดค้านดังกล่าวของท่านอาจมีน้ำหนักมากขึ้นเป็นพิเศษ ในกรณีที่เราได้รวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาความสนใจของท่านที่มีต่อผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง หากท่านมีสิทธิคัดค้านดังกล่าว และได้ใช้สิทธินั้น เราจะยุติการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวทันที ท่านสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้โดยติดต่อเราตามรายละเอียดที่ระบุไว้ด้านล่าง โดยเฉพาะในบางกรณี สิทธิในการคัดค้านของท่านอาจไม่สามารถใช้ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความจำเป็นเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนทำสัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ได้ข้อสรุปแล้ว

เมื่อ คาเนโบ ประเทศไทย ได้รับคำขอใด ๆ ข้างต้น จากท่าน คาเนโบ ประเทศไทย จะปฏิบัติตามคำขอเมื่อมีการยืนยันตัวตนของท่าน เว้นแต่จะมีเหตุสมควรที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าว

“ลูกค้า” สามารถติดต่อเราได้ตามรายละเอียดข้างล่างนี้

ติดต่อ :


เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่:


บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
อาคารโอเนสทาวเวอร์ เลขที่ 6 ชั้นที่ 15 ซอยสุขุมวิท 6
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

หมายเลขโทรศัพท์:


02-714-4060

หมายเลขโทรสาร:


02-714-4061

อีเมล:


TH-Kanebo-DPO@kao.com

หากต้องการใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อเราตามที่ระบุไว้ข้างต้น นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอำนาจ

8. การตอบสนองต่อความคิดเห็น และการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล


เราจะพยายามเพื่อจัดการกับความคิดเห็น หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างรวดเร็ว
และเหมาะสม ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อที่ 7 ข้างต้น

9. คุกกี้ส์


คาเนโบ ประเทศไทย ใช้คุกกี้ส์บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ รวมถึงการปรับปรุงข้อมูล และบริการที่มีให้ และทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่ายขึ้น และในบางหน้าเว็บไซต์เราใช้คุกกี้ส์เพื่อตรวจสอบความเป็นสมาชิกในการเข้าสู่ระบบ การจัดเนื้อหาบริการ หรือการเผยแพร่โฆษณาตามประวัติการเข้าดูเว็บไซต์ คุกกี้ คือ ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งจากหน้าเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บเบราว์เซอร์หนึ่ง ซึ่งทำให้สามารถดึงข้อมูลเดิมของผู้ใช้มาเพื่อแยกแยะคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน

ท่านสามารถปิดการใช้งาน หรือลบคุกกี้ส์ในเว็บเบราว์เซอร์ของท่านได้ โดยการตั้งค่าลบ หรือปิดการใช้งานคุกกี้ส์ นอกจากนี้ อย่างไรก็ตาม ท่านอาจไม่สามารถเข้าสู่ระบบการใช้งานได้

10. ความยินยอม


การที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา ท่านยินยอมให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายนี้

ท่านรับรองเพิ่มเติมว่า ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลที่ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาแก่เรา หรือได้มาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ รวมถึง อาจมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

11. การทบทวน และปรับปรุงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล


นโยบายนี้อาจได้รับการแก้ไขเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นเพื่อสะท้อนถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา และเพื่อให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น นโยบายนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในนโยบายนี้จะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของเรา หากท่านไม่ติดต่อเรา (รายละเอียดการติดต่อที่ให้ไว้ในข้อที่ 7 ข้างต้น) เพื่อถอนความยินยอม เราจะถือว่าท่านยอมรับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เราขอแนะนำให้ท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่าท่านรับทราบนโยบายเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลล่าสุดของเรา

12. นโยบายความเป็นส่วนตัวของเด็ก


หากท่านเป็นเด็กอยู่ในช่วงอายุที่ต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของท่าน ท่านควรตรวจสอบข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวร่วมกับพ่อแม่ หรือผู้ปกครองของท่าน เพื่อให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจ และยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ หากเราพบว่าเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเด็กโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ในบางครั้ง เราอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบอายุ และบังคับตามข้อกำหนดของนโยบายนี้

นโยบายนี้มีทั้งรูปแบบภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ในกรณีที่มีความไม่สอดคล้องกัน หรือความคลาดเคลื่อนระหว่าง
ฉบับภาษาอังกฤษ และฉบับภาษาไทย ให้ใช้ฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลัก

Page Top